วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์)
"กินข้าวซะก่อนลูก"
"หิวไหมลูก..มากินข้าว"
"เอาเงินนี่ติดตัวไป..เอาไว้กินข้าว!"
"รีบกินข้าวซะ..จะได้ทำงานกันเสียที.."
ถ้อยคำคลุกน้ำใจจากปากของท่านผู้ที่รักเรา นอกจาก จะแสดงถึงพระคุณของท่านแล้ว ยังบอกความจริงอีกอย่างหนึ่ง ในชีวิตคนเรา คือทุกคนต้องกินข้าวกินอาหาร.. ลูกหลานเอย.. ต่อให้เก่งแค่ไหน ทำงานสำคัญเพียงใดก็ตาม ถ้าไม่กินข้าวปลา อาหาร ไม่มีทุนจะเติมพลังชีวิตดังกล่าวแล้ว ..ตายหมดประโยชน์ หมดราคาทันที หนอลูก..
หลวงตาก็คิดเหมือนลูกๆ อย่างนี้แหละ จึงกล้าบอกลูก หลานทั้งหลายว่างานธรรมทาน จำแนกแจกจ่ายธรรมของวัด เขาวง เริ่มดำเนินด้วยดีมาหลายปีแล้ว ..คนมาปฏิบัติธรรมก็มีทั้ง พระทั้งเณร ฆราวาสหลายอาชีพหลายระดับอายุ ..คนสนองงาน ผลักดันงานสืบพระศาสนาก็มีหลายชีวิต ทั้งภายในวัดและภายนอก ทุกคนทุกองค์ต้องบริโภคทั้งอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และการเยียวยารักษาโรคอันจะพึงเกิดมี และทุกท่านที่ว่านี้ก็ถวาย ชีวิตทำงานของพระพุทธเจ้า ตัดขาดจากอาชีพหารายได้เพื่อตัวเอง เอาเวลาในชีวิตที่เหลือทำงานพระศาสนา
และงานพระศาสนานี้ ก็ทำเพื่อต้อนรับกระแสศรัทธาคือ คนของพระพุทธเจ้าคือพวกเราที่อ่าน ที่มาปฏิบัติธรรม ณ วัด เขาวงนี่แหละ! คนที่มาก็ไม่ใช่เทวดานางฟ้านะลูก ยังต้องกินข้าว กินน้ำ ต้องนอนหลับ ต้องบริโภคไฟฟ้า น้ำประปาเหมือนกัน ทั้งหมดนี้ หลวงตาวางระบบเลี้ยงดูให้เป็นสุขตามสมควร ทั้งคนให้ และคนรับกระแสธรรมดังกล่าวต้องใช้เงินนะลูก.. แม้จะเป็นงานของพระพุทธเจ้าก็ตามที
ฉะนั้น.. เพียงแต่พวกเราใส่บาตรด้วยเศษเงินเหลือใช้ หรือยอดเงินก่อนใช้สอยก็ตาม เพียงคนละ ๑ บาทต่อวัน เดือน หนึ่งคนละ ๓๐ บาท ลูกหลานเอย..ใช้สอยสารพัดเรื่องที่จำเป็น ในชีวิตก็ใช้ไปเถิด แต่พากันใส่บาตร ถวายพระพุทธเจ้าคนละ..วันละ ๑ บาท เพื่อพระสาวกและพระโยคาวจร เจ้าหน้าที่ของวัดได้ใช้บริหารงาน ธรรมทานเผยแผ่พระธรรมมาสู่ พวกเราเองนี่แหละ ก็น่าจะทำได้ อยู่หนอ..
ก็เพียงพอ กินไม่ไหวใช้ไม่ หมดอยู่แล้ว ถ้าทำบุญวันละ ๑ บาท ตลอดทุกเดือน เงินทุนก็สมทบทวี ขึ้น ก็จะขยายถวายจ่ายแจกไปใน เรื่องทุนการศึกษาพระภิกษุสามเณร ที่เรียนนักธรรมและพระบาลี ให้ ท่านเป็นธรรมทายาทสืบอายุพระพุทธศาสนาแทนเราต่อไป
เวลาทำบุญก็ไม่ต้องเดือน นึงส่งทีหรอกลูก.. ถวายมา ๑๐๐ บาทก็เลี้ยงพระศาสนาไปได้ ๑๐๐ วัน ๑,๐๐๐ บาทก็จุนเจืองานพระ พุทธเจ้าไปได้ ๑,๐๐๐ วัน มีเท่าไหร่ ก็เก็บรวมไว้ในบาตร (บัญชีวัด) เวลา จะใช้ก็ตักออกจากบาตร เราเป็นลูก พระพุทธเจ้าก็ต้องกิน ‘ข้าวก้นบาตร’ ท่านเป็นธรรมดา ในบ้านเรามีเด็กอนุบาล ...เด็กในท้องแม่ คนแก่ผู้มีคุณหรือ บรรพชนที่ตายไปแล้ว ก็เป็นเจ้า ของทุน ‘ข้าวก้นบาตร’ เลี้ยงพระ ศาสนาได้คนละทุนเป็นบุญติดตัว
ช่วยกันหน่อย.. ดีไหมลูก?